การจัดงานแต่งในสวน (Garden Wedding) ช่วยสร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและเป็นธรรมชาติ โดยเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติและรายละเอียดที่เรียบง่าย แต่สวยงาม มาช่วยตกแต่งบรรยากาศภายในงานของคุณ ไม่ว่าคุณจะเลือกจัดงานแต่งงานที่โรงแรม จัดงานแต่งที่บ้าน หรือสถานที่จัดงานแต่งฟีลสวน งานแต่งในสน

หากคุณยังไม่มีไอเดียการจัดตกแต่งงานฟีลสวน หรือยังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี วันนี้เรามีไอเดียการจัดงานแต่งแบบสวนมาฝากค่ะ

 

  1. เลือกสถานที่

หากบ้านหรือบริเวณมีพื้นที่สวนสวยอยู่แล้ว ใช้พื้นที่นั้นในการจัดงาน ไม่จำเป็นต้องเช่าสถานที่เพิ่มเติม แต่หากต้องเช่าสถานที่ ควรเลือกสวนที่มีต้นไม้ร่มรื่น มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา จะเป็นสวนสาธารณะ หรือ รีสอร์ท ที่มีสวนเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่

หรือจะเป็นฟีลบ้านสวน ฟาร์มสเตย์ ก็เป็นสถานที่ส่วนตัวและสงบเงียบ

หรือจะเลือกจัดงานแต่งที่โรงแรมที่มีการจัดตกแต่งด้วยแบล็คดรอปสวนต้นไม้ ดอกไม้ และประดับดอกไม้บนโต๊ะอาหาร หรือตามทางเดิน ก็เป็นทางเลือกที่สะดวกและง่ายสำหรับยุคสมับนี้ด้วย

อีกทางเลือกที่กำลังมาแรงในตอนนี้ก็คือสถานที่จัดงานที่สวนอยู่แล้ว หรือตกแต่งสถานที่ด้วยต้นไม้ก็เป็นอีกไอเดียการเลือกสถานที่ที่ดีมากเลยค่ะ เพราะจะทำให้คุณไม่ต้องเหนื่อยที่จะตกแต่งเพิ่ม สถานที่ก็เป็นธรรมชาติ อบอุ่นแล้วด้วย

  1. การจัดที่นั่ง

เลือกใช้โต๊ะและเก้าอี้ไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุธรรมชาติอย่างหวายหรือไม้ไผ่ หรือจะเสริมด้วยหมอน , เบาะรองนั่งที่มีลวดลายดอกไม้หรือสีธรรมชาติ

  1. ดอกไม้และพืชพรรณ

จัดดอกไม้ในกระถางเล็ก ๆ วางไว้ตามโต๊ะ

ประดับทางเดินด้วยกิ่งไม้หรือดอกไม้เล็ก ๆ ห้อยลงมา

ใช้ดอกไม้ท้องถิ่นหรือดอกไม้ตามฤดูกาลเพื่อความประหยัดและเข้ากับบรรยากาศธรรมชาติ

  1. แสงสว่าง

ใช้ไฟสไตล์โคมไฟกระดาษหรือไฟสว่างนวล ๆ ที่แขวนไว้ระหว่างต้นไม้

หรือใช้เชิงเทียนที่มีดีไซน์เรียบง่าย เพื่อเพิ่มความอบอุ่นในงาน

  1. ทางเดินและแท่นพิธี

ทางเดินในสวนสามารถประดับด้วยพรมเรียบ ๆ หรือก้อนหินแบน ๆ

แท่นพิธี (หรือโครงซุ้มแต่งงาน) สามารถทำจากไม้ไผ่ ตกแต่งด้วยดอกไม้ใบไม้แบบธรรมชาติ

  1. บาร์และพื้นที่เสิร์ฟเครื่องดื่ม

สร้างบาร์เล็ก ๆ ที่ทำจากไม้ ตกแต่งด้วยดอกไม้และเครื่องดื่มสไตล์บ้านสวน เช่น น้ำสมุนไพร หรือเครื่องดื่มที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้

  1. ของชำร่วย

ของชำร่วยที่เข้ากับธีมสวน เช่น เมล็ดพันธุ์ต้นไม้เล็ก ๆ หรือของที่ทำจากธรรมชาติ อย่างสบู่หรือเทียนหอม

  1. ชุดแต่งงาน

สำหรับเจ้าสาวและเจ้าบ่าว อาจเลือกชุดที่ดูสบาย ๆ แต่มีความหรูหราเล็กน้อย เช่น ผ้าลินินหรือผ้าฝ้าย ที่ไม่หนักหรือร้อนเกินไป

หากต้องการทำด้วยตัวเอง อาจลองหาสิ่งของที่หาได้ง่ายรอบตัวมาใช้ในการตกแต่ง เช่น ขวดแก้วสำหรับใส่ดอกไม้ เก้าอี้ไม้เก่า ๆ หรือใช้ใบไม้ ดอกไม้ในสวน

  1. ธีมและการตกแต่ง

ธีมธรรมชาติ: ดอกไม้สด ไม้เลื้อย เฟิร์น ต้นไม้เขียวขจี

ไฟระยิบระยับ: ใช้ไฟเชือกหรือโคมไฟกลางแจ้ง เพื่อเพิ่มความสวยงามในยามค่ำคืน

โต๊ะและเก้าอี้ไม้: ใช้เฟอร์นิเจอร์จากไม้เพื่อความกลมกลืนกับธรรมชาติ

  1. อาหารและเครื่องดื่ม

อาจจะเลือกจัดด้วยเมนูค็อกเทลกลางแจ้ง หรือ บุฟเฟ่ต์ ที่เหมาะกับบรรยากาศสวน

  1. ดนตรีและบรรยากาศ

ดนตรีอะคูสติกหรือดนตรีสดที่มีความนุ่มนวล และอาจจะเพิ่มพื้นที่สำหรับแดนซ์ฟลอร์สำหรับงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้

  1. สิ่งที่ควรคำนึงถึง

สภาพอากาศ: จัดเตรียมแผนสำรองหากมีฝน หรือเต็นท์สำหรับความปลอดภัย

แสงไฟ: ให้ความสำคัญกับการให้แสงสว่างที่เหมาะสมยามค่ำคืน

ห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวก: จัดเตรียมห้องน้ำที่เพียงพอและสะดวกสำหรับแขก

  1. จุดถ่ายรูป

จัดจุดถ่ายภาพสำหรับแขกที่มาร่วมงาน เช่น บริเวณซุ้มดอกไม้ สะพานไม้ หรือน้ำพุในสวนซึ่ง การจัดงานแต่งในสวน ที่ The petal Garden&Studio จะทำให้งานดูเป็นธรรมชาติและเป็นกันเองมากขึ้นด้วยค่ะ

การจัดงานแต่งในสวน ที่ดีที่สุด

การจัดงานแต่งในสวน (Garden Wedding) เป็นสไตล์งานแต่งงานที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งมีสถานที่ให้เลือกหลากหลาย เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการงานแต่งงานที่อบอุ่น โรแมนติก และมีบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ

1. ข้อดีของการจัดงานแต่งในสวน

  • บรรยากาศโรแมนติกและผ่อนคลาย:
    การตกแต่งด้วยดอกไม้และธรรมชาติรอบตัวสร้างความสดชื่นและความประทับใจให้ทั้งคู่บ่าวสาวและแขก
  • เหมาะกับธีมหลากหลาย:
    เช่น Minimal, Rustic, Boho, หรือ Vintage ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวกับธรรมชาติ
  • ภาพถ่ายที่สวยงาม:
    แสงธรรมชาติและวิวสวนเขียวขจีช่วยให้ภาพถ่ายงานแต่งออกมาสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ

2. สถานที่จัดงานแต่งในสวนในกรุงเทพฯ

  • The Petal Studio:
    สถานที่จัดงานแต่งงานในสวนที่โดดเด่นเรื่องการใช้ดอกไม้สดในการตกแต่ง และบรรยากาศที่อบอุ่น เรียบง่าย แต่หรูหรา
  • สวนสาธารณะหรือสวนในโรงแรม:
    เช่น โรงแรมริมแม่น้ำหรือโรงแรมที่มีสวนภายใน ให้ทั้งความสะดวกและบรรยากาศเป็นธรรมชาติ
  • เรือนไทยหรือบ้านโบราณ:
    เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการงานแต่งแบบไทยในบรรยากาศสวน

3. สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการจัดงานแต่งในสวน

  • สภาพอากาศ:
    ฤดูที่เหมาะสมคือช่วงปลายฝนต้นหนาว (ตุลาคม-ธันวาคม) หรือหน้าร้อน (กุมภาพันธ์-เมษายน) เพื่อหลีกเลี่ยงฝนตก
  • การจัดเตรียมอุปกรณ์:
    เช่น เต็นท์กันแดด/กันฝน พัดลมไอเย็น และแสงสว่างสำหรับช่วงเย็น
  • การอนุญาต:
    หากเลือกสถานที่สาธารณะ ต้องติดต่อขออนุญาตล่วงหน้า
  • การเดินทาง:
    ควรเลือกสถานที่ที่เดินทางสะดวกสำหรับแขก

4. ธีมการตกแต่งที่เหมาะสำหรับงานแต่งในสวน

  • Minimal Garden Wedding:
    เน้นความเรียบง่ายและการใช้โทนสีขาว เขียว และน้ำตาลจากธรรมชาติ
  • Rustic Wedding:
    ใช้ไม้ หญ้าแห้ง และแสงไฟสีเหลืองนวลเพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่น
  • Bohemian Style:
    เพิ่มสีสันและลวดลายแบบอิสระ ด้วยผ้าแขวนและพรม
  • Vintage Style:
    ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งย้อนยุค

5. อาหารและเครื่องดื่มในงานแต่งในสวน

  • บุฟเฟต์หรือค็อกเทล:
    เหมาะกับบรรยากาศสบาย ๆ ของงานในสวน
  • อาหารสไตล์ฟิวชั่น:
    เช่น อาหารไทยผสมอาหารตะวันตก เพื่อให้ตอบโจทย์แขกหลากหลายกลุ่ม
  • ซุ้มอาหาร:
    เช่น ซุ้มกาแฟ ซุ้มขนมหวาน หรือซุ้มอาหารเบา ๆ เพื่อสร้างความสนุกและสีสันให้แขก

6. ค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งในสวน

การจัดงานแต่งในสวนมีความยืดหยุ่นด้านงบประมาณ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น:

  • ขนาดของงานและจำนวนแขก
  • การตกแต่ง
  • การจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม
    ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น: ประมาณ 100,000 บาท ไปจนถึงหลักล้าน ขึ้นอยู่กับรายละเอียดและสถานที่

7. สถานที่แนะนำในกรุงเทพฯ

  • สวนหลวง ร.9:
    สถานที่สวยงามและกว้างขวาง เหมาะสำหรับงานแต่งงานที่เน้นความธรรมชาติ
  • The Petal Studio:
    เหมาะสำหรับงานแต่งในสวนแบบส่วนตัว ด้วยบริการครบวงจรที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
  • โรงแรมริมน้ำเจ้าพระยา:
    บรรยากาศสวนพร้อมวิวแม่น้ำ ให้ความรู้สึกโรแมนติก

การ จัดงานแต่งในสวน เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคู่รักที่ชื่นชอบบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ และต้องการงานแต่งงานที่อบอุ่น สวยงาม และเป็นกันเอง การเลือกสถานที่และบริการที่ตรงใจจะช่วยให้งานแต่งงานในสวนของคุณเป็นวันที่น่าจดจำไปตลอดชีวิต